ล่าสุดกองทัพซูดานได้ออกมาประกาศว่าสามารถตัดกำลังทหารของกองกำลัง RSF ในกรุงคาร์ทูมไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว การสู้รบที่ไม่มีทีท่าว่าจะยุตินี้ทำให้ UN ประเมินว่าอาจทำให้จำนวนประชาชนที่อพยพออกจากซูดานมากถึง 800,000 คน

กองทัพซูดานเปิดเผยว่า ทหารของพวกเขาตัดกำลังทางการทหารของกองทัพ RSF ได้ราวร้อยละ 45-55 แล้ว และในช่วง 16 วันที่ผ่านมาของการสู้รบ กองทัพซูดานสามารถยับยั้งไม่ให้กองกำลัง RSF เสริมกำลังในกรุงคาร์ทูมได้อีก

ผู้นำ RSF ปรากฎตัวครั้งแรกใกล้ทำเนียบปธน. ซูดาน

"ทหารแย่งชิงอำนาจ" ที่มาของการสู้รบรอบใหม่ในซูดาน

นอกจากนี้ กองทัพซูดานได้เผยแพร่ภาพ ‘พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน’ ผู้บัญชาการกองทัพซูดานกำลังประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมกับข้อความบนคลิปวิดีโอว่า “ผู้บัญชาการทหารสูงสุดตรวจสอบความคืบหน้าของปฏิบัติการทางทหารจากสำนักงานใหญ่แห่งหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานที่ระบุแน่ชัดเกี่ยวกับสถานที่และวันเวลาที่ถ่ายทำ รวมถึงประเด็นที่กองทัพซูดานกำลังหารือกันอยู่

แม้กองทัพซูดานจะอ้างว่า สามารถตัดกำลังทางการทหารของกองกำลัง RSF ได้ แต่ก็มีรายงานจากกองกำลัง RSF ที่อ้างว่า พวกเขาสามารถครอบครองพื้นที่หลักๆ ในกรุงคาร์ทูมไว้ได้เช่นกัน วันนี้การสู้รบระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF เข้าสู่สัปดาห์ที่สามแล้ว

ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย

การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงฉบับล่าสุดมีขึ้นเพื่อเปิดช่องทางการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังซูดาน และช่วยอำนวยสะดวกให้ประชาชนซูดานและพลเมืองจากชาติอื่นๆ เดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง แต่การต่อสู้ระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเมื่อวานนี้ที่เกิดการโจมตีทางอากาศบริเวณทางตอนเหนือของกรุงคาร์ทูม เกิดควันดำลอยคละคลุ้งทั่วท้องฟ้า

การสู้รบทำให้ประชาชนต้องอยู่อย่างยากลำบาก ขาดแคลนอาหารและน้ำสะอาด รวมถึงเผชิญกับราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น

หญิงชาวซูดานรายนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ เธอเล่าว่า ครอบครัวของเธอได้ยินเสียงปืนและระเบิดทุกวัน จึงต้องหนีออกจากบ้านของตนเองและเช่าห้องแห่งหนึ่งในบริเวณที่ปลอดภัยกว่าของกรุงคาร์ทูม การสู้รบทำให้ไฟฟ้าถูกตัดขาด พวกเขาขาดแคลนน้ำสะอาดและอาหารอย่างหนัก เธอและสมาชิกคนอื่นในครอบครัวได้กินข้าววันละมื้อเท่านั้น

จนถึงตอนนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการสู้รบมากถึง 528 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 5,000 คน ขณะที่ผู้คนอีกหลายหมื่นคนถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านของตัวเองไปยังสถานที่ปลอดภัยในประเทศ หรือต่างประเทศ ผู้อพยพจำนวนมากต่างเดินทางมาปักหลักอยู่บริเวณท่าเรือซูดานของเมืองพอร์ทซูดานเพื่อรอความช่วยเหลือ

นี่คือภาพของประชาชนในซูดานทั้งชาวซูดานและชาวต่างชาติที่รอการอพยพบริเวณท่าเรือของเมืองพอร์ทซูดาน บรรยากาศข้างในค่อนข้างแออัด

ทุกคนที่มาที่นี่ต่างหวังว่าตนเองและครอบครัวจะได้ออกจากซูดานนี้ในเร็ววัน อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงติดอยู่ที่ท่าเรือแห่งนี้

ชาวซูดานรายหนึ่งบอกว่า พวกเขาไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการอพยพเลย เจ้าหน้าที่ทหารบอกให้พวกเขาอดทนรอเท่านั้น

ขณะที่ เมื่อวานนี้ ( 1 พ.ค.) ‘เวดันท์ พาเทล’ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงว่า สหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือพลเมืองสหรัฐฯ และพลเมืองชาติอื่นๆ รวมกว่า 700 คนออกจากท่าเรือของพอร์ทซูดานสำเร็จแล้ว โดยความช่วยเหลือรอบต่อไปจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความขัดแย้งว่าปลอดภัยมากแค่ไหน

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ระบุว่า การสู้รบระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF อาจทำให้ผู้คนราว 815,000 คนอพยพหนีความขัดแย้ง

ในจำนวนนี้ 580,000 คนเป็นชาวซูดาน พวกเขาอาจลี้ภัยไป 7 ประเทศเพื่อนบ้านของซูดาน ได้แก่ ซูดานใต้ ชาด อียิปต์ เอริเทรีย เอธิโอเปีย สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และลิเบีย ส่วนที่เหลืออีก 235,000 คนเป็นกลุ่มผู้ลี้ภัยจากซูดานใต้ คาดว่าขณะนี้มีชาวซูดานราว 73,000 คนอพยพไปประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ชาด อียิปต์ และซูดานใต้แล้ว การประเมินดังกล่าวเป็นเพียงข้อบ่งชี้เท่านั้น แต่ UNHCR เตือนว่า ความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้อาจทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ด้านมนุษยธรรมซ้ำเติมปัญหาที่ซูดานมีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม

ทั้งนี้ก่อนเกิดความขัดแย้ง ประชากร 1 ใน 3 ของซูดานหรือเกือบ 16 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอยู่แล้ว และมีผู้พลัดถิ่นในประเทศประมาณ 3.7 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคดาร์ฟูร์

หากความขัดแย้งระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF ยังดำเนินต่อไป ประชาชนอีกจำนวนมากจะถูกบังคับให้อพยพออกจากประเทศเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ทาง UNHCR กำลังประสานงานและวางแผนเพื่อรองรับคลื่นผู้ลี้ภัยที่อาจไหลบ่าไปยังหลายประเทศ

ด้านองค์การสหประชาชาติหรือ UN ประกาศว่า UN จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติไปยังซูดาน รวมถึง ‘มาร์ติน กริฟฟิธส์’ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านมนุษยธรรมและความช่วยเหลือฉุกเฉินของ UN ก็จะเดินทางเยือนซูดานในวันนี้เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และประเมินว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้คนที่ยังอยู่ในซูดานอย่างไรได้บ้าง

คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง